clinicrak.com   คลินิกรัก

คู่เคียงกายเป็นเกย์หรือไฉน ?


หัวข้อบทความครั้งนี้ดูจะแปลกกว่าทุกครั้ง ผมยอมรับอย่างตรงๆ เลยว่าก่อนจะเสนอ หัวข้อเรื่องนี้ต้องชั่งใจหลายครั้งหลายหน เหตุเพราะว่า เนื้อหาของการดูคู่แท้หรือคู่เทียม ก็ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากที่ยังมิได้นำมาเขียน ทำไมตัวเราจึงต้องมาบรรยายวิเคราะห์ ประเด็นเรื่องคู่ของคนอื่น จะเป็นเกย์หรือเป็นทอม เป็นดี้ ซึ่งเป็นเรื่องของรสนิยม ในแต่ละบุคคลไป จะกลายเป็นว่าก้าวก่ายสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไปหรือเปล่า แต่ที่ต้องมาเขียนบทความในประเด็นเรื่องเกย์ เรื่องดี้นี้ ก็พอมีเหตุผลสำคัญคือ

ประการแรก สภาพสิทธิมนุษยชนในปัจจุบัน การยอมรับของผู้รักร่วมเพศมิใช่การที่ต้องมาปิดบัง แอบซ่อนเร้นเหมือนดังแต่ก่อนแล้ว ดูจากในประเทศอเมริกาซึ่งประธานาธิบดีคลินตัน ก็ยังนำประเด็นเรื่องนี้มาใช้ ในการหาเสียงหรือก็ยังมีการเปิดโอลิมปิคเกย์เกมส์เป็นข่าวแพร่หลายทั่วโลก นักกีฬาดังที่ทั่วโลกรู้จักกันก็ยังยอมรับเปิดเผยอย่างหน้าตาเฉย ไม่แคร์ต่อชื่อเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ในเมืองไทยเราก็เป็นประเทศเสรี ความรู้สึกในด้านลบก็มีไม่มากนัก ไม่มีการแอนตี้ที่รุนแรง ทัศนคติในเรื่องเช่นนี้ จึงเป็นการพอยอมรับกันได้

ประการต่อมา จากที่รู้จักกันหลายคู่ ก็สามารถควงคู่กันได้อย่างเปิดเผย และถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่มีความรู้สึกเป็นปมด้อยแต่ประการใด สาวบางคนก็ทราบว่า แฟนของตนอาจจะมีอาการกระตุ้งกระติ้งอยู่ก่อนแล้ว และชอบคบเพื่อนเพศเดียวกันด้วย แต่เธอก็รับสภาพจิตใจของเขาได้ เพราะส่วนดีส่วนเด่นของเขามีอีกมากไม่ว่าจะเป็น ความสามารถเฉพาะตัวสูง ความรักสะอาด การเข้าอกเข้าใจเรื่องละเอียดอ่อน หรือการร่วมทุกข์ร่วมสุขซึ่งกันและกัน นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าสำหรับการใช้ชีวิตคู่ ที่เพียงแต่หวังเรื่องเซ็กซ์ประการเดียว

ประการสุดท้าย ที่ผมคิดว่าน่าจะมีใครสักคนที่หยิบยกเรื่องนี้ มาพูดในเรื่องการเลือกคู่ไว้บ้าง อย่างน้อยใครที่เคยแอนตี้หรือยอมรับไม่ได้ที่ทราบภายหลังว่า แฟนของตนเป็นพวกรักร่วมเพศ จะได้เข้าใจปัญหาในอีกแง่มุมหนึ่งซึ่งตนควรจะทราบไว้บ้าง สิ่งที่เสียใจมากก็พอจะคลี่คลายในทางที่ดีได้มากขึ้น หรืออย่างน้อย บทความนี้ก็ยังเป็นไกด์ สำหรับหนุ่มสาวบางคนไว้เป็นข้อพิจารณาแฟนของตน ถ้ายอมรับกันได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารับไม่ได้เลย การที่เกมกันก่อนจะร่วมหอลงโรงกันก็ยังดีกว่ามาหย่าร้างกันในภายหลัง

เมื่อผมคิดได้ในประเด็นสำคัญนี้ว่ายังพอจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านได้บ้าง จึงนำเรื่องนี้มากล่าวในหัวข้อเรื่องคู่แท้หรือคู่เทียมด้วย จะชอบใจอ่านมากน้อยประการใด คิดเสียว่าเป็นเรื่องอ่านกันเพลินๆ ไม่ต้องซีเรียสแต่ประการใดทั้งสิ้น

การดูว่าคนเคียงกายของคุณเป็นผู้ที่ชอบเพศเดียวกันในสมัยนี้ค่อนข้างจะสังเกต ได้ง่ายกว่าในสมัยก่อน ดังเหตุผลที่กล่าวไว้แล้ว คือคนกล้าเปิดเผยมากขึ้น ค่านิยมของสังคม จะเป็นในด้านบวกด้วยซ้ำไป ทุกวงการที่พวกเขาหรือเธออยู่นั้น สามารถสร้างสรรค์ผลงาน ได้อย่างวิจิตรผสมผสานกับความนำสมัย ความแปลกใหม่ ล้วนแต่น่าทึ่งทั้งสิ้น

ผมเคยอ่านเรื่องการค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ฝรั่งแต่ขอโทษด้วยที่จำไม่ได้ว่า มาจากนิตยสารเล่มใด ได้พบว่าส่วนมากแล้วผู้ที่มีพฤติกรรมชอบเพศเดียวกันนั้น จะเป็นมาแต่กำเนิด โดยมียีนหรือโครโมโซมที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว พูดอย่างง่ายๆ ก็คือ ฟ้าได้สร้างหรือประทานมาให้เป็นเช่นนี้ก็คงไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าใดนัก ดังนั้นผู้ที่อ่านคงเคยได้ฟังนักจิตวิทยาเคยกล่าวว่า พฤติกรรมการชอบเพศเดียวกัน จะเกิดจากปมรักตนเองมากกว่าปกติบ้าง หรือปมรักพ่อ ปมรักแม่ มากเกินไปบ้าง หรือเป็นเพราะการอบรมเลี้ยงดูในช่วงเยาว์วัยนั้น ก็คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงทฤษฎีเสียใหม่ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องมาหักล้างเหตุผลว่าของใครจะแน่กว่ากัน เพราะก็ถูกต้องทั้งสิ้น

ในหลักของชีวิตจริงนั้น นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมในช่วงเด็กแล้ว ส่วนลึกของจิตใจ หรือตัวตนของพวกเขาหรือเธอก็คงต้องมีส่วนชอบหรืออารมณ์การรักเพศเดียวกันอยู่แต่ดั้งเดิมด้วย คนที่ไม่มีจิตใจชอบมาก่อน แม้จะได้อยู่ร่วมกลุ่ม หรือร่วมกามกัน แต่ถ้าได้เจอชายจริง หญิงแท้แล้วก็คงต้องเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างแน่นอน

ซึ่งบางคนแม้จะพบของจริงก็ยังไม่ติดใจ นอกจากนี้ยังชอบเพศเดียวกัน เหมือนดังแต่ก่อนก็หมายความว่า ได้เป็นมาแต่สายเลือดแล้ว ที่จริงก็ไม่ได้ผิดธรรมชาติ แต่ประการใด มิหนำซ้ำธรรมชาติก็เพิ่มความจีเนียสให้อีกด้วยซ้ำ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู คนเด่นคนดังในทุกวงการที่อยู่ใกล้ตัวท่าน พวกเขาหรือเธอเหล่านั้นจะแสดงออก ซึ่งความสามารถเฉพาะตัวสูง ความมีอัจฉริยะในอาชีพที่ตนจับอยู่ ที่สำคัญจะมีฐานะ หรืออยู่ในระดับมีอันจะกินในอัตรารายได้ต่อคนสูงกว่ารุ่นเดียวกันเป็นส่วนมากก็ว่าได้

ถ้าดูจากการโคจรของดวงดาว ช่วงที่จุติมานั้นก็จะมีการเดินผิดปกติของดาวดวงใด ดวงหนึ่งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะดาวศุกร์เป็นหัวใจสำคัญ เพราะเป็นดาวที่เกี่ยวข้องกับความรัก และยังมีความหมายทางโภคทรัพย์ด้วย เรียกว่ามีข้อเสียทางความรักแต่ก็มีข้อเสริม ทางโภคทรัพย์แทน จึงขอฝากเป็นข้อคิดหนึ่งให้ผู้อ่านได้เกิดการแตกแขนงทางความคิดไว้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เห็นว่าไม่สลักสำคัญก็จงอ่านต่อไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะครับ

ผมจะบรรยายให้ตรงกับหัวข้อเสียที วิธีสังเกตพฤติกรรมโดยการแอบดูความประพฤติ ในวิธีการค่อยเป็นค่อยไปจะดูดีกว่า การเชื่อข่าวลือของผู้ปรารถนาดี หรือแม้แต่การถามที่โจ่งแจ้ง พาลจะทำให้ไก่ตื่นไปเปล่าๆ จึงแนะนำวิธีการสังเกตดังนี้
1. อากัปกิริยา วิธีการนี้ดูง่ายที่สุด เพราะบุคลิกลักษณะเป็นสิ่งที่แสดงออกมา ตรงธรรมชาติมากที่สุด นอกจากว่าคู่กายของคุณสามารถแสดงบทบาทหลอกคุณ ได้อย่างแนบเนียนมาก ให้คุณดูมือไม้ การออกท่าออกทาง ฟังน้ำเสียงเจรจา เช่น เป็นชายก็จะทำกิริยากระตุ้งกระติ้งคล้ายดังหญิง เป็นหญิงก็ห้าวหาญแกร่งกว่าชาย แต่ก็พึงระวังอย่าใช้การสังเกตในข้อนี้มาเหมาสรุปง่ายเกินไป เพราะกิริยาท่าทางบางคน ก็เป็นเพราะติดจากบรรพบุรุษหรือเกิดจากอารมณ์จิตใจที่สุนทรีย์มากกว่าปกติ ทั้งที่จิตใจทั่วไปเหมือนปกติชนทั่วไป ผู้ชายบางคนอาจจะชอบพูดจ๊ะ จ๋า จนเป็นนิสัย หรือผู้หญิงบางคนก็พูดฮะ พูดครับจนเคยชิน เป็นต้น

2. ดูจากแววตา เทคนิคการสังเกตวิธีนี้เหมาะกับการดูผู้ชายจะเห็นได้ชัด หรือพูดง่ายกว่าดูผู้หญิง เพราะผู้หญิงส่วนมากจะมีตาหวานหรือแววตาอ่อน ที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว แม้บางคนจะมีแววตาแข็งกร้าวมากเพียงใดก็ยังไม่สามารถวัดใจ ว่าเธอเป็นทอมหรือดี้ได้ นอกจากว่าเธอได้แสดงออกหรือต้องการสื่อตรงๆ เช่น ซอยผมให้สั้นเหมือนดังชาย แต่งตัวใส่กางเกงให้คล้ายผู้ชายให้มากที่สุด ส่วนผู้ชายนั้น ถ้าเห็นแววตาเชื่อมหรือการชม้อยตาเป็นนัยกับผู้เพศเดียวกันละก็ให้สันนิษฐานก่อนว่าใช่เลย ข้อพึงระวังก็คือ ผู้ชายบางคนก็มีนัยน์ตาสวยกว่าผู้หญิงก็มี ถ้าเป็นเช่นนี้ก็คงต้องดูผล จากข้ออื่นประกอบร่วมด้วยละครับ

3. การคบเพื่อน สมมติว่าคุณได้แต่งงานกับคู่ของคุณ ลองดูซิว่า เขายังติดเพื่อนสนิทเพศเดียวกันในช่วงระยะก่อนแต่งและหลังแต่ง ยังคงซี้ปึ๊ก เหมือนเดิมอีกไหม นอกจากนี้ยังจะเห็นการสนิทที่มากเกินไป ดูประหนึ่งอนาทรร้อนใจ ซึ่งกันและกันจนดูแล้วชักจะมากกว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทคนหนึ่ง หรืออาจจะเห็น การหึงหวงในตัวคุณเข้าอีกละก็ใช่เลยเช่นเดียวกัน บางคนก็รักที่จะคบหากัน กับกลุ่มเพศเดียวกันมากกว่าปกติจนเห็นได้ชัด ก็มีส่วนเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ข้อนี้ก็มาทึกทักง่ายๆ ไม่ได้เหมือนกัน เพราะผู้ชายบางคนช่างติดเพื่อน ขี้เหงาจนเป็นนิสัย เคยสังสรรค์เฮฮาเข้าสังคมเป็นประจำ จะมาห้ามเขาก็ไม่ได้ หรือผู้หญิงบางคน เคยอยู่แต่โรงเรียนมีสตรีล้วน ไม่เคยมีเพื่อนชายมาก่อน ดังนั้นเพื่อนสนิท จึงเป็นเพศเดียวกันแน่นอน ดังนั้นวิธีการสังเกตข้อนี้ ตัวคุณต้องมีสายตาที่ชำนาญ ในการแอบดูพฤติกรรมอยู่บ้าง

4. เซ็กซ์ ข้อนี้มีส่วนสำคัญมากพอดู วิธีการนี้เหมาะกับคู่ที่แต่งงานแล้วนะ คู่ที่เป็นเพียงแต่แฟนขอให้ผ่านไปก่อน ข้าพเจ้าคงไม่ต้องบรรยายหรอกนะว่าให้ดูอย่างไร สังเกตว่าเขาหรือเธอมีข้ออ้างบ่อย มากน้อยประการใด ดังที่เคยบอกไว้แล้วว่า คนที่ไม่ชอบ ทำอย่างไรก็ฝืนความรู้สึกตนเองไม่ได้ คนที่ชอบเพศเดียวกันจริงๆ ในกรณีที่มิได้ เป็นพวกไบเซ็กซ์ช่วลนั้น จะไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับเพศตรงข้ามจนเห็นได้ชัด แต่ก็ต้องดูรูปร่างนิสัยตัวคุณเองประกอบด้วยละว่าพอไปวัดไปวาได้ไหม หรือคู่คุณมีอารมณ์ ลึกล้ำประการใด มิใช่แต่โทษคู่ของคุณฝ่ายเดียว นะจะบอกให้

5. สืบประวัติบรรพบุรุษ พูดง่ายๆ ก็คือดูโครตเหง้าคู่หรือแฟนคุณด้วยว่า เคยมีญาติพี่น้อง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย มีพฤติกรรมเช่นนี้บ้างไหม เพราะสามารถสืบต่อ ทางกรรมพันธุ์ได้ หรืออย่างน้อยก็มีการเลียนแบบตามกันได้ ดังสุภาษิตที่ว่า ดูช้าให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ นั่นแล
ขอจบแค่นี้ละครับ โอกาสหน้ามีข้อมูลแปลกใหม่จะนำเสนออีกครั้ง สวัสดีครับ


(update 13 ตุลาคม 2001)
[ ที่มา..หนังสือ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 25 ฉบับที่ 7 กรกฎาคม 2544 ]



[ BACK TO LIST]

[Home] [ เพศ] [ครอบครัว] [ ผู้สูงวัย ] [วัยรุ่น] [ เลี้ยงลูก ] [คลินิกเด็ก][ โรคเด็ก ] คุมกำเนิด] [ โรคสตรี ] [คลินิกคุณแม่]
[กามโรค] [เกย์] [ สุขภาพจิต] [ law ] [สัตว์เลี้ยง]