clinicrak.com   คลินิกรัก



เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เกเร เมื่อโตขึ้น

รศ.สุพัตรา สุภาพ



ถ้าลูกของเราชอบทำร้าย
เพื่อนตัวน้อยๆ ด้วยกัน
คนที่จะเสียสุขภาพจิตก็คือ
เพื่อนของลูกนั่นแหละ
จนกระทั่งอาจกลายเป็นลูกโซ่
เพราะลูกเราสร้างเด็กก้าวร้าว
คนต่อไปโดยไม่รู้ตัว

วันก่อนเดินไปซื้อของแถวบ้านเห็นเด็กวัยตั้งแต่ 5-10 ขวบ เล่นกันอยู่ 6 คน แต่มีเด็กชายวัย 8 ขวบ ชอบทุบหัวเด็กชายวัย 6 ขวบ (เดาเอา) เพราะเห็นตัวเล็กกว่า เด็กโตกว่านั้นพยายามตีแขนบ้าง ผลักอกบ้าง พอเห็นเด็กตัวเล็กเฉยแกเลยทุบอกดังอึ้ก เด็กตัวเล็กพยายามเดินเลี่ยง ไปหาเพื่อนๆ ที่เหลือ...คงเจ็บ

เด็กตัวโตนี้เดินไล่ตาม พยายามจะรังแกเด็กตัวเล็กอยู่ เรื่อย เพื่อๆ ตัวเล็กตัวน้อยเล่นกันต่อ โดยไม่ได้สนใจการ

รังแกนั่น และทุกคนไม่ว่าตัวเล็กตัวใหญ่ต่างไม่กล้าตอแยเด็กตัวโต

ท่าทางแกคือ "เจ้าถิ่น" ฉะนั้นอยากเล่นอะไร จะเล่น เพื่อนมีอะไรถ้าแกอยากเล่น เพื่อนจะต้องให้ มิฉะนั้นเจ็บตัว ถ้าเด็กคนโตนี้ไม่มีใครอบรม โตขึ้นอาจกลายเป็นวัยรุ่นเกเร เพราะเท่าที่เห็น แกจะเป็นเด็กก้าวร้าว ชอบใช้กำลังและทุกคนต้องยอมแก ถ้าไม่ยอมแกจะผลัก จะชก หรือตี

หากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่อบรมแก แกอาจกลายเป็นเด็กเกเรได้ง่าย จนถึงขั้นทำร้ายฆ่าคนได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็น เช่น ในอเมริกา ที่ฆ่าเพื่อนตายไป 12 คน ครู 1 คน ในโรงเรียน

ดร.ลิเลียน แกลส LilianGlass ผู้แต่งหนังสือ "Toxic People" ยกตัวอย่างเด็กฆ่ากันตายที่โคโลราโด เตือนพ่อแม่ ถ้าลูกมีอาการต่อไปนี้ ต้องรีบดูแลลูกให้ดีได้แล้ว

  • ลูกถูกล้อเลียน

ถ้าลูกโดนเพื่อนล้อเลียนหรือดูถูก ดูหมิ่น ขอให้รีบจัดการด้วยการไปหาครู หรือพ่อแม่ที่ชอบทำร้ายจิตใจลูกของเรากรณี แฮริส กับเคลโบล์ด ที่ลงมือฆ่าเพื่อน เพราะโดนล้อเลียนมานานนับปีๆ ว่า "พละแย่" เด็ก 2 คน เลยจินตนาการว่า ตัวมีอำนาจที่จะตอบโต้ใครได้อย่างรุนแรง

  • ลูกกลายเป็นคนหนีโลกหรืออ้างว้าง

เด็กก้าวร้าวมักจะอ้างว้าง และไม่ค่อยเล่นกีฬาหรือไปสังสรรค์กับใคร เพราะไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือไม่ก็โดนเพื่อนทอดทิ้งเป็นประจำ ทำให้แกจะเก็บตัวอย่างหดหู่

  • ดูว่าลูกชอบสะสมอะไรที่ผิดปกติ

แฮริสและเคลโบล์ด ชอบสะสมของที่ระลึกของนาซียิ่งพวกอะไรที่โหดๆ ชอบสะสม ฉะนั้นการให้ลูกเล่นมีด ปืน ขวาน แล้วการแสดงออกโหดๆ ผิดปกติต้องเหลือบตาดูบ้าง

  • ชอบเพลงรุนแรง เร่าร้อน

จากประวัติเด็กที่โตขึ้นกลายเป็นคนก้าวร้าว ดร.ลิเลียนเตือนว่า สังเกตให้ดี เด็กพวกนี้จะไม่ชอบฟังเพลงเบาๆ นุ่มนวล แต่ชอบเพลงเร่าร้อนและรุนแรง

  • เรียนอ่อนลงไหม

ว่างๆ ไปพบคุณครูว่าลูกการเรียนเป็นอย่างไร สนใจการเรียนหรือไม่ หรือเอาแต่เล่นหรือเก็บตัวไม่พูดจาหรือรังแกชาวบ้าน และที่เรียนไม่ดี ครูอาจารย์เห็นว่าเกิดจากอะไร
แก้ไขแต่เด็กๆ ดีกว่าให้มีปัญหาเมื่อโตขึ้น

  • ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ รุนแรงแค่ไหน

ตอนนี้เด็กเล็กหรือใหญ่จะเล่นเกมคอมพิวเตอร์เพื่อฝึกทักษะภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เลข เป็นต้น จะเป็นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็ดีทำให้เด็กสนใจกว่าสอนกันธรรมดา เพราะมีรูปภาพทำให้น่าสนใจ เด็กสนุกและรับรู้เร็วขึ้น แต่ถ้าเด็กชอบแต่เกมคอมพิวเตอร์ ที่ยิงหันฆ่ากันเป็นหลัก ก็ขอให้ดูๆ ลูกไว้บ้าง เพราะการเล่นเกมแบบนี้ เท่ากับสอนเด็กให้เห็นแต่ความรุนแรงเป็นของธรรมดา

  • มีการท้อถอยและหดหู่

เด็กเล็กหรือโตในปัจจุบันมีอาการท้อถอยหดหู่มากขึ้น เนื่องจากแกมีปัญหาบ้างครั้งบอกไม่ได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เนื่องจากเกิดความกลัวหรือผิวหวังจากเพื่อน ครู ญาติพี่น้อง
โดยเฉพาะพ่อแม่ ต้องอย่าทำให้แกผิดหวัง มิฉะนั้นแกจะหดหู่ท้อแท้ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต จนอาจหาทางออกในทางที่เสียหายได้

  • ดูว่าแกชอบรังแกเพื่อนซ้ำๆ ซากๆ ไหม

เด็กบางคนทำร้ายคนอื่น พ่อแม่อาจไม่ถือสา หรือบางครั้งกลับเอ็นดู เช่น เด็กเล็กๆ วัยแค่ 1 ขวบครึ่ง ชอบตีหน้าพ่อแม่ ญาติพี่น้อง พี่เลี้ยง ทุกคนเอ็นดูแกเลยตีคนรอบตัวจนติดเป็นนิสัย เพราะแกคิดว่าใครๆ ก็ชอบ
แกแยกไม่ออกว่า เขาไม่พอใจกันตรงไหน ในเมื่อเอ็ดแกก็ยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วแกจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ดีพอเข้าโรงเรียน แกก็ตีเพื่อนเพราะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการทำให้เพื่อนพอใจ อย่าลืมเด็กคือ ผ้าขาวผืนใหญ่ ที่เราจะแต่งแต้มอย่างไรก็ได้และแกจะรับไปโดยไม่รู้ตัว

สังเกตเด็กบางคนชอบเอามดมาฉีกขาทิ้ง ปล่อยให้มดนอนนิ่งเพราะเดินไม่ได้ แกจะชอบใจ ถ้าพ่อแม่ไม่ห้าม แกจะสนุกใหญ่ บางคนก็ยิงนก หรือจับลูกนกมาเล่นจนตาย หรือบางคนตีหมาเล่น โดยแกไม่คิดอะไร นอกจากเห็นว่าสนุก
มีเด็กคนหนึ่ง ตั้งแต่เล็กชอบรังแกญาติของตัวเอง พอโตขึ้นก็ทำตัวเป็นเจ้าพ่อน้อยๆ กับเพื่อน ผู้ปกครองบางคนเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ลูกอยู่ ป.2 โดนเพื่อนของลูกขู่ขอเงินวันละ 5 บาท ถ้าไม่ให้จะเอาเรื่อง ลูกให้เงินอยู่หลายวัน เมื่อโดนเจ้าพ่อน้อยๆ ขู่

แม่เด็กอนุบาลอีกคนเล่าว่า ลูกโดนเพื่อนชกเป็นประจำ เพราะไม่แบ่งขนมให้ ที่รู้เพราะมีรอยฟกช้ำดำเขียวที่แขน ก็เพื่อนชกบ้าง หยิกบ้างเธอเลย ต้องไปขอความช่วยเหลือจากครู
สิ่งที่ดร.ลิเลียนเตือนอีกประการหนึ่งคือ การหาผู้เชี่ยวชาญช่วยลูก เช่น ที่ปรึกษาสุขภาพจิต หรือจิตแพทย์ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองครูอาจารย์ หรือผู้เกี่ยวข้องหากช่วยเองไม่ได้จริงๆ

ยิ่งเด็กเล็กๆ ถ้าชอบความรุนแรงมากเท่าไร ย่อมเป็นสิ่งบ่งบอกว่าลูกเราไม่ใช่เด็กธรรมดา ถ้าเราเห็นเป็นเรื่องปกติ ลูกเราอาจต้องมีชีวิตต่อไปวันข้างหน้าแบบผิดปกติ แล้วใครจะเสียใจ.. ก็เรานั่นแหละ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าลูกของเราชอบทำร้ายเพื่อนตัวน้อยๆ ด้วยกัน คนที่จะเสียสุขภาพจิตก็คือ เพื่อนของลูกนั่นแหละ จนกระทั่งอาจกลายเป็นลูกเรา สร้างเด็กก้าวร้าวคนต่อไปโดยไม่รู้ตัวจนกลายเป็นลูกโซ่

หรือทำให้เด็กอื่นๆ หดหู่ เช่น เด็กหลายคนโดนเพื่อนรังแก จะกลัวการไปโรงเรียน ยิ่งโดนขู่ยิ่งไม่กล้าบอกครูอาจารย์ พ่อแม่ เด็กจะยิ่งท้อใจไม่มีความสุข จนไม่อยากเรียนหนังสือหรือไม่อยากพบหน้าใคร เพราะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เด็กบางคนฝันร้าย
บางคนนอนไม่หลับ
บางคนเอาแต่ร้องไห้
บางคนกินไม่ได้
ฯลฯ

สภาพแบบนี้ ผู้ปกครองอย่าได้ปล่อยปละละเลยเป็นอันขาด ปรึกษาหมอเสียแต่เนิ่นๆ เพราะนั่นคือลางบอกเหตุว่าลูกเราไม่ปกติแล้ว โรงเรียนเปิดแล้ว ยิ่งเด็กที่เพิ่งเข้าโรงเรียน จะกลัวโรงเรียน ครู เพื่อน เหมือนคนแปลกหน้า แล้วยังเจอเพื่อนเกเรหมดอารมณ์เรียน

แต่ถ้าแกรู้สึกกดดัน หรือไม่ปลอดภัย แกอาจไม่มีความสุข อาจจะเก็บกด และเอามาลงกับที่บ้าน เช่น เห็นหน้าแม่ก็งอแงกอดแน่น หรือตีพ่อแม่ผู้ปกครอง หาว่ามารับช้า หรือร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล ฯลฯ
การเลี้ยงลูกสักคนให้เจริญเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่ใช่ของง่ายแต่อย่าท้อใจ พ่อแม่ ผู้ปกครองทำได้ถ้าเข้าใจและใส่ใจลูกด้วยความรักที่พอเหมาะพอควร



[ ที่มา... นิตยสารแม่และเด็ก   ปีที่ 22 ฉบับที่ 329 สิงหาคม 2542]

[ BACK TO LIST]

[Home] [ เพศ] [ครอบครัว] [ ผู้สูงวัย ] [วัยรุ่น] [คุมกำเนิด] [ โรคสตรี ] [กามโรค] [เกย์] [ law ]