Homeคลินิกรัก ห้องเสพสมให้สมอารมณ์หมาย
สนทนาเรื่อง | เสพสม | ครอบครัว | สูงวัย l วัยรุ่น | เรื่องลูก l คุมกำเนิด | โรคสตรี | กามโรค | เบี่ยงเบน | law | ตั้งหัวข้อใหม่ คลิกที่นี่



เทียวผู้หญิงขายบริการต้องทำยังไงบ้าง

เทียวผู้หญิงต้องทำยังไงบ้างครับ
บอกให้ละเอียดนะครับ


โดย ko_2@i-kool.com - 10 ธ.ค.43 13:22น.


Episode I
ไม่บอกเสียด้วยว่าจะเอาแบบไหน มีงบประมาณเท่าไร อายุถึงหรือยัง แต่ที่ง่ายและสดวกที่สุดน่าจะเป็นพวกอาบ-อบ-นวด ทุกแห่งนั่นแหล่ะ เข้าไปได้เลยไม่ต้องเตรียมอะไรมากนอกจากสตางค์และความกล้า ถามคนเชียร์เรื่องค่าบริการและวิธีจ่ายให้ดี เพราะมีหลายแบบ ส่วนใหญ่ค่าบริการจะอยู่ระหว่าง 1,300 – 3,600 ต่อเวลา 2 ชั่วโมง รวมทุกอย่างแล้วนอกจากเห็นว่าบริการถูกใจจะทิปต่างหากอีกก็ไม่ผิดกติการแต่อย่างใด นอกจากอาบ-อบ-นวดแล้วก็คงเป็นตามแหล่งเที่ยวกลางคืนเช่น RCA จะมีผู้หญิงบริการแฝงตัวอยู่โดยทั่วไป ตาดีได้ตาร้ายเสีย พวก คาราโอเกะ หรือ ค๊อกเทลเลาจน์ ก็มี แต่พวกนี้ยุ่งยากเรื่องมาก สนนราคาก็ไม่ถูกต้องพาออกไปข้างนอก ต้องหาโรงแรม วุ่นวายไปหมด แถมต้องระวังตัวจัดเตรียมถุงยางไปให้พร้อม ไม่เหมือนกับไปอาบน้ำเพราะทุกอย่างพร้อมหมด เขาไปตัวเปล่า ออกมาตัวเปล่า (ตัวเปล่าจริง ๆ เพราะหมดสตางค์)
ลุงเอง 10 ธ.ค.43 20:51น.
 


มาขำคุณลุงเอง ชำนาญจังเลย
ฟ้าคราม 10 ธ.ค.43 21:48น.
 


สิ้นเปลืองจังเลยนะผมว่า ถ้ามีแฟนแล้วกลับไปหาภรรยาน่ารักที่รออยู่บ้านดีกว่า ได้เงินเป็นค่าอาหารลูกด้วย
zzz 10 ธ.ค.43 23:15น.
 

Episode II
คิดได้แบบคุณ zzz ก็จะดีมากชีวิตจะสงบสุข เพราะกามารมณ์เป็นเพียงส่วนหนึงของชีวิตไม่ใช่ทั้งหมด อะไร ๆ จะดีที่สุดถ้ารู้จักเดินสายกลางและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม เพศชายนั้นธรรมชาติสร้างมาให้มีความต้องการทางเพศโดยเฉลี่ยสูงกว่าเพศหญิง ในสมัยโบราณเมียคนแรกจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นเมียหลวง เมื่อแต่งงานไปได้สักพัก บางรายถือเป็นหน้าที่ด้วยซ้ำที่จะต้องหา "อีเล็ก ๆ " มาช่วยแบ่งเบาภาระแทนที่จะปล่อยให้พ่อตัวดีไปเสาะหามาเองเพราะอาจเป็นปัญหาเรื่องการปกครองได้


ที่กลับเข้ามีวันที่ ที่จริง ต้องการจะเขียนเรื่อง อาบอบนวด ต่อเพราะคราวที่แล้วจบไปแบบห้วน ๆ บางคนโดยเฉพาะเจ้าของกระทู้อ่านแล้วอาจไม่สะใจ เหมือนฉี่ไม่สุด จึงจะขอเล่าขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อเป็นวิทยาทานดังนี้


สถานที่อาบอบนวดส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกเปรียบเสมือนห้องรับแขกตกแต่งสวยงาม ที่ได้ระดับจริง ๆ เหมือนกับล๊อบบี้ของโรงแรมชั้น ๆ เลยที่เดียว ส่วนประกอบที่สำคัญคือตู้กระจก ตู้นี้ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นกระจกด้านเดียว หมอนวดมองไม่เห็นแขกซึ่งไม่เป็นความจริง ในตู้นี้จะมี "หมอนวด" แต่งตัวสวยงามนั่งรอให้แขกเลือก ส่วนใหญ่จะเป็นชุดวับ ๆ แวม ๆ บางแห่งที่มีระดับหน่อย หมอนวดจะแต่งตัวมิดชิด คล้าย ๆ กับสาว ๆ ที่ทำงานอ๊อฟฟิส ใส่ถุงน่องรองเท้าเรียบร้อย ได้อามรณ์ไปอีกแบบ เครื่องแต่งตัวของหมอนวดก็แล้วแต่สถานที่ บางแห่งมีการเปลี่ยนไปตามเทศกาล เช่นช่วงหน้าร้อนจะกำหนดให้ หมอนวดทุกคนใส่ชุดว่ายน้ำ หรือบางแห่งกำหนดให้หมอนวดใช่เฉพาะชุดชั้นในก็มี

ในตู้จะมีโทรทัศน์ไว้ให้หมอนวดดูแก้เซ็งขณะรอแขก การตั้งโทรทัศน์ไว้ในตู้นั้นมีอีกเหตุผลหนึ่งคือให้แขกได้เห็นอริยาบทต่าง ๆ ของหมอนวด จะสังเกตุได้ว่าหมอนวดที่ดูโทรทัศน์อยู่ในตู้จะหัวเราะได้ง่ายกว่าปกติโดยเฉพาะเมื่อมีแขกยืนอยู่หน้าตู้ บริเวณหน้าตู้จะมีพนักงาน (มีทั้งหญิงและชาย) ทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "คนเชียร์แขก" เราสามารถสอบถามรายละเอียดเช่น ประเภทของบริการ และ ราคา เป็นต้น นอกจากนี้ หากไม่แน่ใจในสายตาตัวเอง อาจถามเพิ่มเติมจากคนเชียร์ได้เช่นกัน

แต่ต้องเข้าใจว่าส่วนใหญ่แล้วคนเชียร์จะมีหมอนวดในสังกัดของตนเองและมักจะเชียร์เด็กในสังกัดนั้นเป็นพิเศษ ทางทีดีให้เชื่อมั่นในตัวเองจะดีที่สุด หมอนวดที่นั่งในตู้จะมีเบอร์ บางแห่งในตู้จะมีหมอนวดหลายประเภท เช่น ประเภทธรรมดา ประเภทดารา หรือประเภทบีคอส เป็นต้น เมื่อเลือกหมอนวดที่ถูกใจได้แล้วก็แจ้งเบอร์ต่อคนเชียร์แขก คนเชียร์แขกจะเป็นคนเรียกหมอนวดที่เราเลือกส่วนใหญ่จะใช้เครื่องขยายเสียงและจะเรียกเหมือนกันหมด เช่น "157 ทำงาน" มีบางแห่งที่พัฒนาไปมาก การเรียกหมอนวดให้ทำงานจะใช้สัญญาลักษณ์มือโดยไม่จำเป็นต้องออกเสียงเลย หลังจากนั้นคนเชียร์ก็จะพาแขกไปรับห้อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเค้าเตอร์มีเจ้าหน้าที่คอยออกเวลาและเบอร์ห้อง จะเลือกจ่ายก่อน หรือ จ่ายทีหลังก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจ่ายทีหลัง หมอนวดที่เลือกจะออกมาพบแขกบริเวณนี้ ส่วนใหญ่จะกำหนดเป็นระเบียบให้หมอนวดไหว้แขกอข่างสุภาพเมื่อพบกันทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นขาประจำหรือไม่ก็ตาม เพราะถือว่าแขกคือผู้มีพระคุณ เมื่อหมอนวดรับใบเวลาและเบอร์ห้องแล้วก็จะพาแขกขึ้นห้อง อาจขึ้นลิฟท์หรือขั้นบันไดก็แล้วแต่สถานที่


พอเข้าห้อง อย่าเพิ่งผลีผลามเพราะจะมีเด็กเสิรฟ์ตามมาติด ๆ เพื่อสอบถามว่าต้องการดื่มอะไรหรือไม่ ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของแขกต้องแสดงน้ำใจ ถามหมอนวนเสมอว่าน้องจะดื่มอะไร ส่วนใหญ่ก็จะเป็น กาแฟเย็น ชาดำเย็น หรือน้ำมะนาว อะไร ๆ เทือกนี้ แต่แขกบางคนสั่งเบียร์ หรือกับแกล้มอื่น ๆ ก็ได้

ที่ต้องสังวรณ์ไว้เสมอคือเครื่องดื่มทุนชนิดจะมีราคาแพงกว่าปกติมาก และจะต้องทิปให้เด็กเสิรฟ์ทุกครั้งเพราะเด็กพวกนี้ไม่มีเงินเดือน เมื่อได้เครื่องดื่มหรือขณะรอเครื่องดื่มจะมีแม่บ้าน หรือที่หมอนวดเรียกกันสั้น ๆ ว่า "แม่" นำเอาอุปกรณ์อาบน้ำประจำตัวของหมอนวนคนนั้นมาให้ หมอนวดที่เก่ง ๆ บางคนจะเริ่มจู่โจมแขกจากจุดนี้ (โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)

ลุงเอง 12 ธ.ค.43 12:32น.

 


Episode III
การจู่โจมของหมอนวดที่มีประสบการณ์สูง ส่วนใหญ่จะสังเกตจากปฏิกิริยาของแขกว่าจะมาไม้ไหน ส่วนใหญ่คือการกอด การลูบไล้ร่างกายของแขก นั่งตัก การป้อนน้ำ การนอนบิดขี้เกียจ บนเตียง บางแห่งถือเป็นระเบียบว่าหมอนวดต้องทำหน้าที่ถอดถุงน่องรองเท้าให้กับแขกทุกราย หรือบางคนใช้เทคนิคการถอดเสื้อผ้า ถ้าอ่อนประสบการณ์หน่อยจะเป็นพวกที่รอให้แขกเป็นฝ่ายเริ่มรุก คำถามยอดนิยมซึ่งใช้เปิดฉากการสนทนาคือ "มาคนเดียวหรือคะ" หรือ "มาบ่อยไหมคะ ทำไมไม่เคยเห็น" ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าช่วงโหมโรงอย่าหักโหมเดี๋ยวจะจอดป้ายเร็วกว่าที่ควรจะเป็น


ขั้นตอนต่อไปคือการอาบน้ำ กรรมวิธีก็แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่หมอนวดจะเป็นคนเปิดหรือผสมน้ำในอ่าง แต่บางแห่งเป็นหน้าที่ของ "แม่บ้าน" หมอนวดเป็นผู้ปรับอุณหภูมิของน้ำให้ได้ตามความต้องการของแขก อ่างน้ำมาตรฐานในห้องจะเป็นอ่างขนาดใหญ่ซึ่งสามารถอาบพร้อมกันได้สองคน บางแห่งที่คุณภาพดี ๆ จะมีห้องที่เรียกว่าเพนท์เฮาส์ หรือห้องชุด ประกอบด้วยห้องเล็ก 2-4 ห้อง ห้องกลางเป็นสถานที่รับประทานอาหารหรือเหล้า มีเด็กเสิร์ฟและบาร์เครื่องดื่มประจำห้อง

มีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่แขกสามารถสั่งเพลงคาราโอเกะเพื่อร้องกับหมอนวดหรือจะให้หมอนวดร้องให้ฟังก็ได้ ถ้าไม่ชอบร้องเพลงจะดูรายการโทรทัศน์ หรือ กดไปช่องวงจรปิดดูเด็กในตู้โดยจะดูภาพมุมกว้างเห็นทุกคนในตู้ หรือจะเลือกโหมดโคสอัพ ดูคนใดคนหนึ่ง ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้ ส่วนกลางห้องจะเป็นอ่างจากุสซี่ขนาดใหญ่อาบพร้อม ๆ กันได้หลายคน นอกจากนี้ยังมีตู้อบซาวน่าไว้บริการด้วย การใช้บริการห้องแบบนี้เหมาะสำหรับพวกกระเป๋าหนัก หรือนักธุรกิจเชิญลูกค้าไป "ปูเสื่อ" ต้องมีงบประมาณขั้นต่ำ 10,000 บาทขึ้นไปและต้องเรียกหมอนวดมาบริการอย่างน้อย 3 คน


กลับมาเรื่องห้องธรรมดา เมื่อเปิดน้ำเรียบร้อย หมอนวดจะชวนแขกลงอ่าง หลังจากทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด หากเป็นการอาบแบบ "บีคอส" จะมีอุปกรณ์เพิ่มคือแพยาง บางแห่งจะมีที่คลุมผมแจกให้ด้วยเพื่อกันไม่ให้ผมเปียก การอาบแบบบีคอส หมอนวดจะใช้น้ำฝักบัวรดตัวแขกและตัวเองให้เปียกทั่วตัวเสียก่อน แล้วให้แขกนอนหงายลงบนแพยาง จากนั้นก็จะใช้สบู่เหลวละเลงจนเกิดฟอง แล้วจึงนอนทับลงไปบนตัวแขก ใช้อวัยวะสำคัญคือหน้าอก หน้าท้อง และอวัยวะเพศของตัวเอง ลูบไล้ไปจนทั่วตัวแขก แต่จะไม่ยอมให้ล่วงล้ำนอกจากแขกจะขวัญอ่อนน้ำแตกไปเสียก่อน เมื่อละเลงด้านหน้าจนพอใจหรือเมื่อเห็นว่าแขกไม่เสร็จแน่ ๆ ก็จะขอให้แขกนอนคว่ำและดำเนินการช้ำด้านหลังอีกรอบ จากนั้นจึงขอให้แขกลงแช่ในอ่างแล้วหมอนวดก็จะตามลงไปโดยจะนั่งลงระหว่างขาทั้งสองข้างของแขกในลักษณะนั่งคุกเข่าแล้วช้อนก้นของแขกขึ้นวางไว้บนตักของตัวหมอเอง ลักษณะนี้ จะทำให้แขกอยู่ในสภาพการนอนแอ่น และจะสร้างความตื่นตัวทางเพศให้กับพวกไก่อ่อนได้ไม่น้อย หมอนวดจะเริ่มขั้นตอนด้วยการขัดขี้ไคล โดยใช้มือขัดไปตามแขนทั้งสองข้าง และหน้าอกของแขก จากนั้นก็จะลงสบู่แขนทั้งสองข้าง หน้าอกและหน้าท้อง และขาทั้งสองข้างในที่สุด

ถึงตอนนี้ หมอนวดจะเริ่มปล่อยน้ำออกจากอ่างให้น้ำลดระดับลงเพื่อเริ่มขั้นตอนการทำความสะอาดอวัยวะเพศของแขก การทำความสะอาดอวัยวะเพศนี้เป็นเทคนิคเฉพาะตัว บางคนที่เก่ง ๆ จะแถมการบีบกษัยให้กับแขกด้วย แขกหลายคนที่สามารถผ่านด่านอรหันต์มาตกม้าตายเอาด่านนี้ก็มีเยอะ

จากนั้น หมอนวดก็จะขอให้แขกลุกขึ้นนั่งหันหลังเพื่อขัดขี้ไคลและฟอกสบู่ด้านหลัง ส่วนใหญ่จะถามแขกว่าจะสระผมหรือไม่ด้วย ฟอกหลังเสร็จก็จะให้แขกยืนขึ้นเพื่อขัดขี้ไคลขาด้านหลัง ก้น และล้างสบู่ให้จนหมดจด ถึงตอนนี้หมอจะถามแขกว่า "ฉี่ไหมคะ" ถ้าจะปวดก็ฉี่ลงอ่างไปเลยหมอนวดจะทำความสะอาดให้อีกครั้งเมื่อฉี่เสร็จ แถมด้วยการรินน้ำยาบ้วนปากให้แขกบ้วนปากเป็นเสร็จพิธี พาแขกขึ้นจากอ่างได้ หมอนวดจะเป็นผู้เช็ดตัวให้กับแขกหรือถ้าแขกจะเช็ดเองก็ไม่ขัดข้อง

สถานอาบอบนวดที่ได้มาตรฐานจะจัดผ้าเช็ดตัวสะอาดไว้ในให้อย่างน้อย 5-6 ผืน จากนั้นก็จะพาแขกไปนอนบนเตียง หรือแขกจะเลือกสูบบุหรี่หรือดื่มเบียร์รอขณะที่หมอนวดกับไปอาบน้ำให้ตัวเองเพื่อความสดชื่นและให้แน่ใจว่าตัวเองสะอาดหมดจดก่อนที่จะให้บริการขั้นต่อไป
(โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)

ลุงเอง 14 ธ.ค.43 11:24น.

 


Episode IV (ตอนอวสาน)
เมื่ออาบน้ำล้างคราบไคลให้กับตัวเองจนหมดจดแล้ว หมอนวนจะหรี่ไฟ หรีโทรทัศน์ (หรือปิดเสียง)บางคนที่ขึ้อายหน่อยอาจหรี่ไฟตั้งแต่ก่อนลงอ่างแล้วก็มี จากนั้นก็จะชวนแขกขึ้นเตียง กรณีที่แขกนั่ง ลืมอธิบายไปหน่อยเรื่องห้อง ห้องธรรมดาส่วนใหญ่จะประกอบด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง เป็นห้องที่มิดชิด บางแห่งอาจเจาะรูไว้เพื่อให้แม่บ้านประจำชั้นแอบดูความประพฤติของผู้ใช้ห้องด้วยก็ได้ ส่วนเปียกจะมีอ่างอาบน้ำและบริเวณหน้าอ่างสำหรับกิจกรรมบีคอส ส่วนแห้งจะปูพรมทั้งหมดและเป็นห้องปรับอากาศ เครื่องแต่งห้องอย่างน้อยจะมีเก้าอี้หรือโซฟา สองตัวกับโต๊ะกาแฟ สุดท้ายคือเตียงที่ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดคิงไซส์พร้อมหมอนสองใบ เตียงนี้มีหลายรูปแบบ ทั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา หรือเป็นทรงกลม ก็มี

ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะขาดเสียมิได้คือกระจกบนฝ้าเพดานซึ่งสะท้อนภาพบนเตียงอย่างชัดเจน ที่เคยได้ยินมาแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันคือบางแห่งจะมีบริการพิเศษสำหรับแขกที่ชอบดู โดยจะจัดเป็นห้องเฉพาะในชั้นถัดไปที่จะมีช่องสามารถมองผ่านกระจกด้านเดียวที่อยู่บนฝ้าของห้องชั้นล่างได้ด้วย


เมื่อขึ้นเตียงแล้วถ้าแขกไม่เริ่มบุกหมอนวดจะเป็นฝ่ายบุก อาจเริ่มจากการค่อย ๆ บีบนวดแข้งขาให้กับแขก หลังจากนั้นก็เริ่มกระบวนการลูบไล้ ดูดนม ดูดจู๋ จนแขกเริ่มมีอารมณ์เต็มที่จะใส่ปลอกให้กับแขกอย่างนุ่มนวล แล้วจึงเริ่มกระบวนการร่วมเพศ ถ้าสังเกตให้ดี หมอนวดส่วนใหญ่จะพยายามทำให้กับแขกโดยหมออยู่ข้างบน เหตุเพราะด้วยท่านี้ ตัวหมอนวดเองสามารถควบคุมจังหวะ ความเร็วและความแรงได้ อีกประการหนึ่งคือสามารถทำให้แขกเสร็จเร็ว และ ทำให้มือแขกไม่สามารถจับนมหมอได้สะดวก หมอนวนส่วนใหญ่จะหวงนมเนื่องจากกลัวเสียทรงจะยอมให้จับหรือดูดบ้างพอเป็นพิธี ที่หวังจะไปบี้ไปขย้ำคงยาก

อย่าลืมว่านวดที่ฝีมือดี ๆ ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆ จะทำงานโดยเฉลี่ยวันละ 3-4 รอบ ในช่วง 14.00 น. - 24.00 น. ของแต่ละวัน เดือนหนึ่งจะหยุดได้ประมาณ 6 วันเพื่อพักฟื้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่มีรอบเดือน หมายถึงหมอนวดพวกนี้ต้องผสมพันธ์กับแขกโดยเฉลี่ย 70 ครั้งต่อเดือน ซึ่งเท่ากันอัตราเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ของคนไทยต่อ 1 ปี ดังนั้น จึงต้องระวังรักษารูปร่างของตนตามสมควร เพื่อให้อายุใช้งานและหาเงินยืนยาวก่อนที่จะโดนลดชั้นไปในที่สุด


กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นจะใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เมื่อเสร็จกิจแล้วจะมีเวลาให้แขกนอนอ้อยอิ่งได้อีกพักใหญ่ ๆ ให้สังเกตได้จากหมอนวด หากเห็นหมอนวดเริ่มแต่งหน้าทาคิ้วแสดงว่าใกล้หมดเวลาแล้ว ลุกไปล้างเนื้อล้างตัวและแต่งตัวได้ ข้อควรระวังในที่นี้คืออย่าเผลอหลับ ถ้าเจอหมดนวดมีคุณธรรมปลุกก็ดีไป แต่ถ้าหมอไม่ปลุกโดยอ้างว่ากลัวว่าจะรบกวนแล้วละก็คุณอาจต้องจากดับเบิ้ล หรือ ทริปเปิ้ล ก็ได้ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยหากจะทิปหมอนวดให้ทิปในช่วงนี้ อัตราทิปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100-500 ร้อยขึ้นอยู่กับสถานที่และบริการ ถามว่าจำเป็นต้องทิปหรือไม่ ตอบว่าไม่จำเป็นถ้าไม่กลัวถูกด่าลับหลัง บางแห่งหมอนวดอาจต้องทิปแม่บ้านด้วยประมาณ 50-100 บาท ถ้าแขกใจดีจะออกให้ก็ไม่ขัดข้อง

ค่าชั่วโมงนั้นหมอนวดจะพาแขกไปจ่ายที่เค้าเตอร์ที่รับเบอร์ห้องครั้งแรกนั่นแหล่ะ เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็กลับบ้านได้ หมอนวดจะตามมาส่งพร้อมกับอวยพรว่า "โชคดีนะพี่"
จบแล้ว

ลุงเอง 14 ธ.ค.43 13:45น.

 


โอ้ย....อ่านคำบรรยาแล้ว อยากจะไปจัง ว่าแต่มีที่ไหนบ้างหล่ะ ราคาไม่แพงมาก ช่วยแนะนำหน่อย อยากจะลองสักครั้ง
country@thaimail.com 14 ธ.ค.43 19:24น.
 


คุณผู้หญิงทั้งหลายอ่านแล้วนำไปใช้กับสามีบ้างนะครับ ทำด้วยความรักย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ไม่ต้องอายเราทำกับสามีของเราเองไม่ได้ทำกับใครที่ไหน
ผู้ชายไม่หนีไปไหนหรอก
.......... 14 ธ.ค.43 21:13น.
 


ละเอียดดีเกือบครบทุกอย่าง เพิ่มเติมให้อีกนิดคือบางแห่งที่ทันสมัยก็จะมีเครื่องคอมฯให้เปิดเลือกดูหน้าตา,รูปร่างของเด็กที่จะเลือกมาดูที่หน้าจอได้ในชุดว่ายน้ำก่อนการตัดสินใจของคุณ และถ้าเด็กๆในตู้ทั้งหมดยังไม่ถูกใจ บางที่ก็จะมีเด็ก side line ที่อยู่นอกตู้ให้เลือกอีกต่างหากแต่ราคาและคุณภาพก็จะต่างไปด้วย มีทั้งคนไทย,รัซเซีย,จีน,ที่ผิวพรรณดีที่สุดคือเกาหลี(ความเห็นส่วนตัว)แต่หายากมาก ยังมีรายละเอียดอีกมากบรรยายกันไม่หมดครับ.
ยมบาล... 15 ธ.ค.43 3:27น.
 


ผมละชอบการตอบของ"ลุงเอง"เสียจริงๆ ไม่ทราบว่าเคยไปที่ โมนาลิซา หรือเปล่าครับ
ท่านพจน์ปรีชา(หนุ่มจุฬาฯ) 15 ธ.ค.43 19:51น.
 


ภาคผนวก
เพื่อความสมบูรณ์ได้นำเอาชื่อสถานที่และราคามาฝากด้วย
และเพื่อสนองนโยบายของเวบมาสเตอร์จึงได้ตัดเอาเบอร์โทรศัพท์ออกทั้งหมดแล้ว


Atami
New Pechburi rd,
Normal 1,500 Baht, Super 1,700 Baht


Bangkok Cozy
New Pechburi rd, Opposite Soi Sunvijai, Bangkok.
Normal 1,200 - 1,500 Baht


Ceazars Palace
Rachadapisek Rd, Bangkok
Normal 1,900 Baht
B-Course 2,000 Baht


Catherine
Behide Juliana Massage, Rama 9,Bangkok.
Normal 1,500 - 1,700 Baht


Darling
Sukhumvit Soi 12, Sukhumvit Rd,Bangkok
B-Course 2,500 Baht


Emmanuelle
55 Rachadapisek Rd, Dindaeng,Bangkok
1,900 Baht


Hi Class
Behide Emmanuelle, Rachadapisek Rd,Bangkok..
Normal 1,500 Baht
Sideline 1,800 Baht ( นอกตู้ )


Honolulu
555 Soi Sunvijai 4, Rama 9 Rd, Near Radison Hotel, Bangkok
Normal 1,800 Baht
Sideline 2,500 Baht ( นอกตู้ )


Model 3,500 Baht
Jao Phaya 1 ( J One )
Beside Decha Hospital Sri-a-yudaya Rd, Bangkok. .
Super 1,200 - 1,700 Baht
Sideline 2,500 Baht


Jao Phaya 2
Opposite Decha Hospital, Sri-a-yudaya Rd, Bangkok.
Tora 1,600 Baht
Star 1,700 Baht


Jao Phaya 3
Pinglao, Arun-amarin Rd,
Tora 1,300 Baht
Sideline 1,400 Baht


Juliana
Rama 9 Rd,
1,700 - 1,800 Baht


Krungthon Complex
Rachada - Tapra Rd, Thonburi,
Tora 1,200 Baht
Star 1,400 Baht
Super 1,600 Baht
Sideline 1,800 Baht


Maree
New Pechburi rd, Bangkok
1,300 - 1,500 Baht


Mirage
111/1 Behide the Emerald Hotel , Soi Nium-u-tis, Rachadapisek Rd, Bangkok.
1,700 Baht


Monalisa
Near Asoke Bridge, New Pechburi rd, Bangkok.
Tora 1,500 Baht
Sideline 1,800 Baht


Monika
2nd floor Monalisa Massage, New Pechburi rd, Bangkok.
1,500 Baht


Nataree
Near the Emerald hotel, Rachadapisek Rd, Bangkok. Tel.
1,700 - 1,800 Baht


New Cleopatra
Asoke - Dindaeng Rd, Bangkok. Tel.
1,900 Baht
Super Model 4,900 Baht


Noar Entertainment
27 Soi Sunvijai 14/1, Ekamai-ramindra Rd, Bangkok. Tel.
B-Course 1,700 Baht
Sideline 2,700 Baht


Osaka
Patanakarn Rd, Suanluang, Bangkok. Tel.
1,500 Baht


Plaza Entertainment
Makasan , New Pechburi Rd, Bangkok. Tel.
Normal 1,800 Baht
B-Course 1,900 Baht
Model 2,700 -3,000 Baht ( at 6th floor )


Poseidon
209 Rachadapisek rd, Dindaeng, Bangkok.
Lounge, Restaurant, Karaoke, Bunny Bar, Thai/ Oil/ Aroma Oil/ Head/ Feet Massage
1,800 baht


Victoria Secret
555 Soi Sunvijai, Rama 9 Rd, Bangkok
1,800 Baht


Viva Palace ( Huyin )
Ramkhamhaeng Rd ( Sukapibhan 3 ) Bangkok. Tel.
Normal 1,700 Baht
VIP 2,300 Baht











ลุงเอง 16 ธ.ค.43 8:32น.

 


หมายเหตุจากเนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 11 ฉบับที่ 502 วันที่ 14 - 20 ม.ค. 2545

เหยี่ยวพ่อลูกอ่อน

สาวไซด์ไลน์"

มหากาพย์เซ็กซ์

ยุคจัดระเบียบสังคม

ขณะที่เหยี่ยวข่าวอาชญากรรมของสำนักข่าวต่างๆ กำลังสนุกกับการตามข่าวตำรวจไล่ล่า "ผู้ใหญ่" กลุ่มหนึ่ง หรือหนังสือพิมพ์หัวสีตั้งฉายาให้เป็น "แก๊งเสพกาม" ที่แอบ "ซื้อบริการ" เด็กอายุ 12-14 ปี ซึ่งถูกตั้งข้อหากระทำชำเราเด็กและอนาจารไปแล้ว

แต่คนอีกกลุ่มใหญ่ที่ไม่อยากเรียกตัวเองว่าเป็น "แก๊งเสพกาม" กำลังปวดหัวกับเรื่อง "เด็กหาย" ไปจากตู้!

ภาวการณ์ "เด็กหาย" ไปจากตู้นั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว โดยนิตยสารไฟกลางคืน (ฉบับที่มี "วิเชียร ภู่ศิริ" เป็น บก.) ได้นำเสนอสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ไม่ปกติ ณ สมรภูมิอาบอบนวดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการสำรวจตัวเลขพนักงานสาวทุกอ่างอย่างไม่เป็นทางการ ก็พบว่าจำนวนของ "คุณหมอ" หดหายไปอย่างน่าตกใจ

อย่างอาบอบนวดเกรดเอ : จูเลียน่า, วิคตอเรีย, พลาซ่า, ซีซาร์, เอ็มมานูเอล, มิราจ, โพไซดอน, คลีโอพัตรา, โฮโนลูลู, โคปาคาบานา, ชองอลิเซ่ และโนอาร์

รวมยอด "คุณหมอ" ที่มาประจำการแล้ว ไม่น่าจะเกิน 600 คน

อาบอบนวดเกรดบี : เอวิต้า, บาร์บาร่า, บางกอกโคซี่, บีวา, แคทรีน, เจ้าพระยา 2, เจ้าพระยา 3, ชวาลา, คิวปิดี้, แอมบาสซี่, ฮาเร็ม, เจ-วัน, กรุงธนคอมเพล็กซ์, นาตาลี, เมรี, โมนาลิซ่า, โมนิก้า, ริเวียร่า, โรสอินน์, สโนไวท์ ,วาเลนไทน์ 1, วาเลนไทน์ 2, วีซ่าและวีว่า

รวดยอดทั้ง "เด็กเอ" (เด็กเอเย่นต์) และ "คุณหมอตกรุ่น" ประมาณ 1,000 คน

อาบอบนวดเกรดซี : ส.โบตั๋น, ไฉไล, สายฝน, นิวยอร์ค, ไนแองการา, อะตามิ, เฮเลน, คริสติน่า และลาสเตลล่า

รวมยอดส่วนนี้ประมาณ 300 คน และเมื่อรวมสาวประจำอ่างทุกเกรด ก็อยู่ในราว 1,900-2,200 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับยุคเศรษฐกิจรุ่งเรืองถือว่ามี "เด็กหาย" ไปจากตู้เป็นจำนวนไม่น้อยเลย

แมลงวันราตรีชี้ถึงสาเหตุของจำนวนที่หายไปว่า 1.ในรอบ 2 ปีมานี้ มีสถานบริการอาบอบนวดเปิดใหม่หลายสิบแห่ง สวนทางกับกระแสเศรษฐกิจขาลง บรรดาพนักงานจึงกระจายออกไปตามอ่างต่างๆ เช่นคุณหมอเกรดบีที่หนึ่ง ก็ขยับเป็นคุณหมอเกรดเออีกที่หนึ่ง 2.พวกหน้าตาดีระดับดาวประจำตู้ถึงเวลา "ปลดระวาง" กลับบ้าน หรือไม่ก็เสี่ยงโชคไปญี่ปุ่น, ไต้หวัน, มาเก๊า หรือยุโรป

3.รูปแบบการขายบริการทางเพศมีช่องทางเพิ่มมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาบอบนวด เช่น เลานจ์คาราโอเกะแบบออฟเด็กได้ 4.การระบาดของโรคเอดส์ 5.การขูดรีดของผู้ประกอบการ โดยการหักเงินสารพัดรูปแบบ เช่น ค่าน้ำยาสุขภัณฑ์, ค่าล้างอ่าง ฯลฯ

ว่ากันว่า ยามนี้เป็นยุคตกต่ำที่สุดของ "นางงามตู้กระจก" ตำนานที่เล่าขานกัน คุณหมอดาวระดับดาวปั๊มเงินเดือนละหลายแสนบาทหรือขับเบนซ์ป้ายแดงมาทำงานนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นใน พ.ศ.นี้อีกแล้ว

ว่ากันว่า ชั่วโมงนี้กว่าคุณเธอจะได้สัก 1 รอบก็ต้องนั่งหาวไม่กี่รู้กี่ตลบ บางคืนต้อง "กินไข่" ผิดกับเมื่อก่อนพนักงานหน้าตาดีหน่อย ก็รับคืนหนึ่ง 4-5 รอบ หรือหน้าตาขี้เหร่ที่สุดก็ไม่น้อยกว่า 3 รอบ

0 0 0

ขณะที่พนักงานตัวจริงค่อยๆ ทยอยลดจำนวนลง ก็มีผู้หญิงขายบริการแบบใหม่แทรกตัวเข้ามาแทนที่ นั่นคือ "สาวไซด์ไลน์" หรือสาวๆ ที่เร่เข้ามาขายบริการในสถานอาบอบนวด

ผู้สื่อข่าวนิตยสารไฟกลางคืน รายงานว่า ""สาวๆ เหล่านี้มาทำงานขายบริการโดยสมัครใจ ไม่มีใครหลอกลวงมาหรือไม่มีใครพามาขายทอดให้กับบรรดาสถานอาบอบนวดเหล่านั้น และจากกระแสข่าวเรื่องนักศึกษาขายตัวดังที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์นั้น ความจริงก็คือมีจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาสู่วงการค้ากามในรูปแบบของหมอนวดนอกตู้เหล่านี้

""มามาซังตามไซด์ไลน์คลับ บางแห่งถึงกับท่องจำให้ขึ้นใจทุกครั้งที่แนะนำเด็กให้กับแขกที่มาใช้บริการว่า น้องคนนี้เรียนอยู่ที่สถาบันโน้นบ้าง สถาบันนี้บ้าง ที่มีชื่อที่สุดก็มี สถาบัน...แถวลาดพร้าว สถาบัน รภ. แม้กระทั่ง มหาวิทยาลัยของรัฐ หรือของเอกชนมีชื่อ ก็ยังมีการแอบมาหากินเป็นไซด์ไลน์อาบอบนวดที่ โพไซดอน ชองอลีเซ่ หรือคลีโอ กับเขาเหมือนกัน พวกนี้ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อสถาบันเป็นตัวโก่งราคา เริ่มจาก 3,500-5,00-8,000 บาทก็มี""

แรกๆ หญิงสาวเหล่านี้ จะแวะเวียนมาแค่ 2-3 คน แต่ภายหลัง "สินค้า" ขาจรแบบนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแขกที่มาเที่ยว จึงทำให้ผู้ประกอบการวางแผนจัดช่องทางค้ากามใหม่ โดยให้พวกผู้หญิงนอกตู้ได้เข้าไปนั่งในตู้กระจก ซึ่งสัดส่วนแยกออกมาจาก "เด็กประจำ" อย่างเห็นเด่นชัด

หากใครแวะเวียนเข้าไปเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้ ก็จะเห็นหญิงสาวสวมชุดไปรเวทนั่งอยู่มุมหนึ่ง ขณะที่อีกด้านหนึ่งมีสาวในชุดวับๆ แวมๆ นั่งโชว์ตัวเป็นแถวยาว ซึ่งความแตกต่างของชุดที่สวมใส่จะทำให้แขกทราบทันทีว่ากลุ่มหนึ่งนั้นเป็น "เด็กไซด์ไลน์"

ประเมินกันว่าวันนี้มีหญิงสาวทุกสาขาอาชีพเข้าไปขายบริการทางเพศในอาบอบนวดทุกเกรด ประมาณ 1,500 คน ส่วนใหญ่จะหนาแน่นอยู่ในอาบอบนวดเกรดเอ ย่านถนนรัชดาภิเษก

""ถึงวันนี้ ธุรกิจค้ากามในรูปของ "สาวไซด์ไลน์" ก้าวไปอีกขั้น ถึงขนาดว่ามีเจ้าของสถานที่บางราย ไม่ต้องสร้างตู้กระจกเปิดเป็นเหมือนภัตตาคาร มีวงดนตรี มีนักร้องชั้นดีให้ความบันเทิง ในขณะเดียวกันก็เปิดขายอาหารแบบภัตตาคาร สาวไซด์ไลน์ก็ให้ไปนั่งอยู่อีกมุมของห้องโถง หรือไม่ก็เดินไปเดินมาเป็นการโชว์ตัวให้แขกเห็น สนใจเรียกมานั่งคุยสอบถามคำถามส่วนตัวบางคำถาม

""คลับไซด์ไลน์ปัจจุบัน ค่าดื่มก็ไม่แพง ไม่มีการรันดื่มเหมือนตามเลานจ์ ตามคลับ เบียร์แก้วละร้อยกว่า เปิดเหล้าก็พันนิดๆ มิกเซอร์ก็ไม่ได้โหดเหมือนคลับเลานจ์ ส่วนใหญ่จะราคามาตรฐานภัตตาคาร ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกเสียเงินหรือรูดการ์ดให้พวกเจ้าของสถานที่เอาเงินสดไปหมุนก่อน เหมือนคลับ/เลานจ์ แต่หลักการพื้นฐานก็คือ ต้องมีสาวไซด์ไลน์ไว้คอยบริการให้มากพอ ไม่ใช่ให้แขกมานั่งรอสาวๆ ที่กำลังสะเดิฟกับใครอยู่ชั้นบน จึงเป็นการยากพอสมควรสำหรับที่จะจัดสถานบริการลักษณะนี้ไว้ในกลุ่มใด คลับ/เลานจ์ ภัตตาคาร หรืออาบอบนวด แต่ส่วนใหญ่แล้วคลับไซด์ไลน์เท่าที่มีอยู่ก็เป็นเอาท์เลทหนึ่งของสถานอาบอบนวดนั่นเอง

""ผลประโยชน์เป็นของใครหรือ? ก็เป็นทั้งของสาวไซด์ไลน์ ทั้งของเจ้าของสถานที่นั่นแหละ คือต่างคนต่างได้ประโยชน์ สาวๆ ได้ค่าตัว สถานที่ได้ค่าห้องลักษณะนี้จะช่วยให้สาวไซด์ไลน์ได้รับค่าตัวทันใจ เป็นน้ำเป็นเนื้อ และส่วนมากจะรับกันวันต่อวัน

""จึงอย่าแปลกใจหากจะสังเกตเห็นว่า พักนี้สาวไซด์ไลน์ย้ายที่ทำงานกันเป็นว่าเล่น ที่ไหนแขกแน่น พวกหล่อนก็จะเฮโลไปที่นั่น เข้าง่าย ออกง่าย ไปวันนี้ได้รับแขกวันนี้กันเลย ได้รับค่าตัววันนี้ กลับบ้านมีเงินสดติดมือไปเสียค่าหน่วยกิต ค่าเช่าแฟลต หรือชำระบิลโทรศัพท์มือถือพรุ่งนี้ เจ้าของสถานที่ก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไร ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน เงินสวัสดิการ ประกันสังคม ค่าตรวจโรค หรือค่าใช้จ่ายอย่างอื่น ไม่ต้องเสียแม้กระทั่งภาษี เพราะรายได้ในรูปเงินบาร์ชาร์จหรือค่าหัวคิวลักษณะนี้ ไม่มีใครเขามามีหลักฐานการรับจ่ายเปิดเผยชัดเจนกันหรอก ขืนมีก็ต้องเม้มๆ ถือเป็นรายรับที่มิพึงเปิดเผยให้สรรพากรรู้ เพราะอาจจะตามมาตรวจสอบเช็คบิลวันหลังกันได้""

สถานที่ที่มีสาวไซด์ไลน์ไปชุมนุมมากที่สุดยามนี้ คือ โพไซดอน ในวันธรรมดาหมุนเวียนกันประมาณ 50 คน ศุกร์-เสาร์ ประมาณ 60-80 คน หรือชอง อลีเซ่ มีเด็กหมุนเวียนมาทำงานกันวันละประมาณ 30 คน ราคาค่าตัวสูงหลายคนเพราะคุณเธอเป็นนางแบบปฏิทิน หรือไม่ก็เคยถ่ายนิตยสารผู้ชายมาก่อน

โดยทั่วไปผู้ชายจะสามารถหา "ซื้อบริการ" จากสาวไซด์ไลน์ในราคาอย่างต่ำ 1,900 บาท และอย่างสูงไม่เกิน 2,700 บาท ยกเว้นพวกนางแบบที่เคยถ่ายปฏิทินหรือนิตยสารผู้ชายจะเรียกค่าตัวเพิ่มขึ้น 3,500-5,500 บาท

นี่เป็นราคาสำหรับผู้หญิงที่เข้าไปขายบริการในอาบอบนวดเกรดเอ สำหรับเกรดบีนั้น แมลงวันราตรีรายงานเพิ่มเติมว่า

""อาบอบนวดเกรดรองเดี๋ยวนี้เขาก็มีสาวไซด์ไลน์ให้บริการเหมือนเกรดเอแล้ว และยิ่งไปเทียบชั้นพวกเด็กไซด์ไลน์ตามอาบอบนวดเกรดรองด้วยแล้ว จะเห็นได้ชัดเลยว่ามาตรฐานเด็กไม่ว่ารูปร่างหน้าตาผิวพรรณจะสู้เด็กในตู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ และอย่าแปลกใจที่ดึกๆ หากคุณแวะไปแถวคอฟฟี่ช็อปหรือฟุตบาธริมถนนเพชรบุรีหน้าโรงแรมสยามจะเห็นเด็กพวกนี้ไปแจมกับพวกเด็กจากบาร์แถวสุทธิสารสะพานควาย หรือแผนโบราณ เกรดล่างหาจับแขกล้างชามกันที่นั่นเรียกราคากัน 1,500 และหลายรายจะยืนมาราธอนถึงยามเมื่อแสงทองจับขอบฟ้า..

""กล่าวโดยสรุปก็คือว่า ณ วันนี้สาวในตู้กำลังถูกเบียดแซงโดยสาวไซด์ไลน์ เพราะกฎเกณฑ์ที่น้อยกว่า ไม่มีเรื่องยุ่งยาก จะมาไม่มากก็ได้ กลับเมื่อไหร่ก็ได้ ไปหาแขกที่อื่นก็ได้ ซ้ำโก่งค่าตัวได้สูงกว่าได้รับเงินเร็วกว่า พวกนักศึกษาเข้ามาหาโอกาส "จ่อม" สัปดาห์ละหนสองหนเพียบ โดยเฉพาะที่ไหนกล้าให้ค่าตัวสูงๆ เป็นประตูหรือบันไดขั้นแรกของการก้าวเข้าสู่วงการค้ากามของนักศึกษาปัจจุบันและพยากรณ์ไว้ได้เลยว่า นี่แหละคือแนวรบใหม่ที่มาแรงของอาบอบนวด เป็นการขายบริการแบบค่อนข้างเสรีในสมัยที่ไทยก็เป็นสมาชิกองค์การค้าโลก จะมาหาว่าถูกบังคับให้ค้ากามก็ไม่ได้ เพราะพวกนี้มาสมัครกันเอง เป็นแฟชั่นการหาเงินที่ง่าย และไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากแถมได้ค่าตัวเป็นน้ำเป็นเนื้อ ไม่ต้องถูกพวกแมงดา แม่เล้า หรือเหลือบริ้นมารุมทึ้งรุมเอาเปรียบทั้งจากมามาซัง หรือเจ้าของสถานบริการ เพราะรายได้แบ่งชัดเจนว่าค่าห้องของสถานอาบอบนวดเท่าไร ค่าตัวเด็กได้เท่าไรมามาซังที่เชียร์ได้รอบละเท่าไหร่""

หาก "ป๋าเหลิม" หรือ "อาศักดา" ไม่เปลี่ยนรสนิยมไปชอบ "เด็ก" ก็อาจมาซื้อบริการจากสาวๆ เหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องไปเสี่ยงกับการตกเป็น "ข่าวหน้า 1" ให้เจ็บปวดไปทั้งครอบครัว

************************

บทเรียนที่ไม่เคยจำป๋าเหลิม" ถึง "อาศักดา"

ข่าวคาว "อาศักดา" กระทำย่ำยีเด็กสาววัย 12 ในวันนี้ ไม่ต่างกับเมื่อครั้งที่ "ป๋าเหลิม" ไปซื้อบริการกับเด็กสาวในวัยใกล้เคียงกัน จะต่างกันตรงที่ "ผู้พิทักษ์เด็ก" ในครั้งก่อนคือ "ครูยุ่น" มนตรี สินทวิชัย ส.ว.สมุทรสงคราม และครั้งนี้เป็นอดีตรัฐมนตรีหญิง-ปวีณา หงสกุล

"ด.ญ.เอ" ที่เข้าไปพัวพันขายประเวณีให้กับ พ.ต.ท.ศักดา ช่างเรือ รองผู้กำกับการจราจร สน.ลุมพินี (รอง ผกก.จร.) ได้เล่าให้นักข่าวฟังว่า ครั้งแรกไปพบที่ห้องทำงาน พ.ต.ท.ศักดา โดยไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน มี พี่บี, ป้าแมว, พี่จอย และตัวเธอเอง ซึ่งครั้งนั้นเป็นการเข้าไปดูตัวเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร

""เขาก็พูดว่าหนูชื่อเอ เรียนอยู่โรงเรียนอนุเสวกใช่ไหม ซึ่งหนูไม่รู้ว่าเขารู้ได้อย่างไร คิดว่าพี่บีคงบอกไว้แล้ว จากนั้นเขาก็ให้เงินพี่บี แบ่งให้หนูมา 100 บาทไปกินขนม แล้วก็กลับกัน ส่วนครั้งที่สอง พี่บีเป็นคนพาเข้าไปพบที่ทำงานเขาอีกครั้งหนึ่ง""

ในการพบกันครั้งที่สองนั้น เธอบอกว่าเขาจะพาหนูไปจริงๆ ทั้งที่ขณะนั้นยังแต่งเครื่องแบบตำรวจและกำลังทำงานอยู่ แต่ก็ทิ้งงานออกมาเลย เขาบอกให้ไปรอที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ กับสถานีตำรวจแล้วเอารถกระบะสีขาว ซึ่งเป็นรถของตำรวจมารับพาหนูกับพี่บีไปโรงแรม ขณะที่อยู่ในรถเขาไม่พูดอะไร และก็มีโทรศัพท์มาหาเขาตลอด ได้ยินเขาพูดกับเพื่อนว่าให้ออกเวรไปก่อน ติดธุระอยู่ เดี๋ยวตามไป

""พอไปถึงโรงแรมเขาสั่งให้พี่บีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ คุยกันแป๊บเดียวแล้วเขาก็ทำหนูจนเสร็จครั้งแรก จากนั้นก็ทำครั้งที่สองต่อ แต่ครั้งนี้เขาทำไม่เสร็จ หนูเจ็บก็ร้องออกมาก่อน ก่อนกลับเขาให้เงินหนู 3,000 บาท""

ส่วนครั้งที่ 3 นั้น ด.ญ.เอ บอกว่า เขาก็เอารถตำรวจมารับเข้าโรงแรมม่านรูดเหมือนเดิม แล้วเขาก็ทำจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นให้เงิน 1,000 บาท แล้วบอกว่า อาไม่ค่อยมีตังค์ เอาไว้คราวหลังจะให้เพิ่มอีก

""อาศักดาไม่เคยถามว่าอายุเท่าไหร่ ไม่เคยคุยอะไรกันมาก เพราะพออยู่กัน 2 คน เขาก็ทำอย่างเดียว"" แต่พี่บีจะเป็นคนโกหกว่าหนูอายุ 15-16 ปี พอหนูจะบอกว่าไม่ใช่ พี่บีก็จะแย้งขึ้นมาทุกครั้งว่า ใช่ หนูอายุ 15-16 ปีจริง และที่เขาทำแต่ละครั้งก็ไม่ได้บังคับอะไรหนู เพราะพี่บีบอกว่าอาเขาเล่นด้วย เราเต็มใจมาแล้วก็ให้ยอม หนูก็ยอมมาตลอด""

ด.ญ.เอ ยังเล่าต่อว่า พ.ต.ท.ศักดาเคยพูดกับพี่บีว่า เขาเคยเลี้ยงเด็กมาแล้วคนหนึ่ง ชื่อ "น้อง" แต่หลังจากนั้นได้หนีไปกับแฟน เขาก็เลยกังวลว่าถ้าเลี้ยงตนอีกคนแล้วจะหนีไปเหมือนคนชื่อ "น้อง" ก็จะเสียเงินที่เลี้ยงไปฟรี พี่บีก็บอกว่าหนูไม่หนีไปไหนหรอก เพราะยังไม่มีแฟน

เป็นคำให้การของเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ ที่ใครได้ฟังแล้วก็อดสะท้อนสะท้านใจเสียมิได้ และผลกรรมดังกล่าวจึงตกมาถึงผู้ก่อคือ "อาศักดา"

เวลา 14.15 น. วันที่ 8 มกราคม 2545 พ.ต.ท.ศักดา ช่างเรือ รองผู้กำกับการจราจร สน.ลุมพินี ซึ่งถูก ด.ญ.เอ ให้การพาดพิงว่าเป็นผู้หนึ่งที่ใช้บริการทางเพศ ได้เดินทางมายังกองปราบปราม พร้อมด้วยทนายความ รวม 3 คน โดยมี พ.ต.ท.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผกก.1 ป. เดินทางลงมารับเพื่อนำตัวขึ้นไปสอบสวนบริเวณชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองกำกับการ 1

หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนนำเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองกำกับการ 1 กองปราบฯ จำนวน 5 คน มายืนเรียงแถวร่วมกับ พ.ต.ท.ศักดา และให้มีการเปลี่ยนเครื่องกายโดยให้เปลี่ยนเสื้อที่ใส่อยู่เป็นเสื้อยืดแขนสั้น สีขาว สกรีนตราโล่ที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายให้เหมือนกันทุกคน ก่อนที่จะให้ ด.ญ.เอ ทำการชี้ตัวจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกได้ให้ พ.ต.ท.ศักดา ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ 2 ครั้งที่สองให้สลับมายืนในตำแหน่งที่ 5 ผลปรากฏว่า ด.ญ.เอ สามารถชี้ตัว พ.ต.ท.ศักดา ได้อย่างถูกต้องทั้งสองครั้ง

ภายหลังจากที่ ด.ญ.เอ ทำการชี้ตัวพ.ต.ท.ศักดา เสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวน นำโดย พ.ต.อ.วินัย ทองสอง รอง ผบก.ป. ได้นำตัว พ.ต.ท.ศักดา ไปทำการสอบปากคำที่ห้องทำงาน โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า พ.ต.ท.ศักดา ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการข่มขืน และไม่ได้กระทำอนาจารกับเด็กหญิงคนดังกล่าวแต่อย่างใด และพนักงานสอบสวนได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวได้โดยใช้หลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ซึ่งทางพ.ต.ท.ศักดา ได้ใช้สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของตัวเองประกันตัวไปก่อนที่จะเดินทางกลับ

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับ พ.ต.ท.ศักดา 2 ข้อหา คือข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท

ถ้ากระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 และข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อดีตรัฐมนตรีปวีณาให้สัมภาษณ์ว่า ""ดิฉันต้องการเห็นกฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และอยากให้ผู้ชายทุกคนพึงสังวร เพราะอดีตที่ผ่านมา 5 ปี คดีลักษณะนี้กฎหมายไม่เคยสามารถเอาผิดกับผู้ชายเลย หวังว่าคดีนี้จะเป็นนิมิตหมายใหม่และเป็นค่านิยมให้กับสังคม""

ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น นรต.34 ยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้สื่อทุกแขนงก็มุ่งแต่ขายข่าว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดเฉพาะกับ พ.ต.ท.ศักดา เท่านั้น แต่รวมไปถึงครอบครัว คือ ลูกที่เรียนอยู่สาธิตจุฬาฯ ไม่กล้าไปเรียนหนังสือแล้ว ส่วนภรรยาของเขาก็ต้องลาออกจากงาน

""เพื่อนผมพังหมดแล้ว เหมือนกับคนที่โดนหมัดจนมึน เดินไม่เป็นก็ว่าได้ และที่สำคัญก็คือ ผู้บังคับบัญชาบางคนสั่งห้ามไม่ให้เขาออกมาพูดอะไรทั้งสิ้น และไม่ต้องเข้ามาที่โรงพักด้วย""

คดีนี้เพิ่งเริ่มต้น และยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะตำรวจยังตามล่าตัวผู้ชายที่ "ซื้อบริการ" จากเด็กหญิงอีกหลายคน


หมายเหตุจากเนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 11 ฉบับที่ 502 วันที่ 14 - 20 ม.ค. 2545.

 


โอ้ย อ่านแล้วเหนื่อย ลุงเนียติดโรคอะไรมาหรือเปล่าจ๊ะ ชำนาญดีแท้ ว่าแต่กลับไปเที่ยวที่บ้านเหอะ บอกเธอว่าจะจ่ายตังส์ให้ด้วยนะถ้าบริการดี ๆ (เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไง) แม่บ้านก็เอาเงินนั้นแหละไปใช้จ่ายได้ด้วย ถ้าต้องการความแปลกใหม่ก็อาจจะเปลี่ยนสถานที่เพื่อความบันเทิง
pin 16 ธ.ค.43 21:17น.
 


สงสัยคุณลุงเองจะเข้าใจคำถามผิดนะครับหัวข้อกระทู้เที่ยวผู้หญิงต้องทำยังไงบ้าง ไม่ใช่ วิทยานิพนธ์สถานบันเทิงยามราตรีในประเทศไทย ฮา
.. 16 ธ.ค.43 23:16น.
 


ขอบคุณครับคุณลุง ที่ช่วยอธิบายจนแจ่มแจ้งเลยย
ผมไม่เคยมีประสบการณ์พวกนี้เลย แล้วก็ไม่อยากเสี่ยงด้วยครับ มีความรู้ขึ้นมาอีกว่าการเที่ยวเค้าทำกันยังไง ขอบคุณครับ
น้องปาแมน 17 ธ.ค.43 6:18น.
 




หน้าแรกของคลีนิกรัก